สวัสดีค่า
หลังจากค้างรีวิวไว้เนิ่นนาน วันนี้มาจัดให้แล้วววว
กับรีวิวเลเซอร์จมูกรักษาแผลเป็นและรูขุมขน จำนวน 6 ครั้ง+1 ที่ BSL CLINIC
อยู่ตรงศาลาแดง ด้านหลัง Central Silom นะจ๊ะ เดินทางง่ายมาก ลงบีทีเอสศาลาแดง
เดินเข้าเซ็นทรัลออกประตูหลังชั้น G ถึงเรยเจ้า
ก่อนอื่นบอกก่อนว่า จริงๆเชอมองหาที่ๆ เน้นรักษาแผลเป็นนูนตรงจมูก
ขนาดว่ามองไปถึง level ผ่าตัดซะด้วยซ้ำ เพราะไอติ่งเนื้อตรงจมูก
มันเป็นแผลเป็นมาสิบๆปี รำคาญมาก เวลาแต่งหน้าก็ไม่เนียน
ทีนี้เชอก็ศึกษาๆๆ หาข้อมูลเยอะมาก ว่าจะเอาที่ไหนดี?
จนมาเจอ BSL CLINIC จ้า
อ่ะ แปะ อันนี้เป็น Testimony ว่าทำไมเลือกรับบริการกับ BSL CLINIC
ตามที่เขียนเรย
หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมเลือกทำที่นี่? มีเลเซอร์ตั้งหลายที่
ง่ายๆ เลย
1. ความน่าเชื่อถือ
เชอดูสถานที่ๆ น่าเชื่อถือ ดูรีวิว ที่ไหนมันดูโอเค ภาพลักษณ์คลินิคเป็นไง
จากที่ดูข้อมูลทั้งเว็ป ไลน์ ต่างๆนานา เห็นคุณหมอดูน่าเชื่อถือดีค่ะ ดูมีประสบการณ์
ไม่ใช่เอาพนักงานมาเลเซอร์ให้
2. เดินทางง่าย ใกล้บ้าน
แน่นอน ถ้าให้ถ่อไปไกลๆ ไม่ไหวจ้า เหนื่อย 55555
นี่สะดวกจริง นั่งบีทีเอสแป๊ปเดียวถึงเลย
3. เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาดี
จากที่เชอเล่าความต้องการ เล่า concern ของเชอกับจนท.ว่าเราต้องการอะไร
จนท.ก็แนะนำดีค่ะ ไม่แบบพยายามยัดเยียด hardsell จนท.สุภาพมาก
4. ราคารับได้
ราคา FRAXEL LASER @ BSL CLINIC
เลเซอร์จมูกปกติตกครั้งละเกือบ 4000 ไม่ก็เกิน 4000 นี่แหละ จำไม่ได้จริงๆ
แต่ถ้าเหมาคอร์ส 6 ครั้ง ก็จะได้ถูกกว่าเป็นครั้ง คืออยู่ที่ 3,750/ ครั้ง x 6 ก็ 22,500.-
เชอก็มีถามทางเจ้าหน้าที่เหมือนกันว่า "ไม่มีโปรไม่มีไรหรอ?"
เค้าบอกว่า ด้วยความที่เป็นสถานพยาบาลจริงๆ ก็เลยไม่ได้เน้น hardsell
ตอนแรกเชออยากจะฉีดคีลอยด์ตรงจมูกด้วย จนท.ก็บอกว่า หมอสามารถฉีดให้ได้
คือ cost cover แล้ว เชอก็เลยโอเค
ราคาอาจจะสูงกว่าที่อื่นหน่อยนึง แต่ถ้าดูสถานที่ การเดินทาง ความน่าเชื่อถือหลายๆ อย่าง เชอโอเค
ละก็ BSL มีให้แบ่งผ่อนครึ่งนึง 2 งวดด้วย ถ้าจ่ายสด ลดอีก 3% อันนี้ดี แฮปปี้ 55555
หลังจากตกลงเสร็จสรรพก็เข้าพบหมอค่ะ
พบหมอที่ BSL CLINIC
คุณหมอเจ้าของเคสเชอชื่อ นพ.วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล
หมอหน้าตาใจดียิ้มแย้ม 555 ถ้าหมอมาอ่านคงขำ 5555
อ่ะต่อๆ
หมอก็อธิบายให้เชอชัดเจนก่อนทำ ว่า จมูกเชอมีปัญหาอะไรบ้าง
ผิวตรงนี้ จะทำการรักษายังไง เลเสร็จผลเป็นไง ละก็ชี้ให้เชอดูรอยบุ๋มหลุมต่างๆ ตรงจมูก
คือถ้าเราไม่สังเกตเชอก็ไม่รู้เลยอ่ะว่ามันมีรอยบุ๋มเยอะ หมอแบบส่องไฟให้ดูเลยจ้า
ซึ่งหลักๆ สรุปใจความหมอได้ว่า..
1. หมอไม่ฉีดคีลอยด์ให้
เพราะ จมูกเชอมีหลุมตรงข้างๆ ติ่งเนื้อพอดี ฉีดไปอาจทำให้areaโดยรวมดูบุ๋มลงไปอีก
และมันก็ไม่ได้ผลระยะยาว เท่าที่จำได้นะ
2. เลเซอร์ Fraxel ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
แต่ทำให้เป็นสะเก็ดหลังทำ ต้องทายาที่หมอจ่ายให้ และภายในอาทิตย์เดียวก็จะหาย
3. การเลเซอร์ มันยังไม่ได้แปลว่าจบรักษาในครั้งนั้น
คือผิวมันจะมีการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาเรื่อยๆ ในอีกหลายเดือนข้างหน้า
4. "ผิวจมูกไม่เหมือนผิวส่วนอื่น!"
เลเซอร์รักษาไป มันจะไม่ได้ทำให้ผิวเรียบ 100% เหมือนผิวส่วนอื่น
ตอนแรกเชอยอมรับตรงๆ ว่าเราก็เฟลนิดนึงนะ แบบ เห้ย.. เลไป ติ่งเนื้อชั้นจะไม่หายหรอ
ละรูขุมขนชั้นจะไม่หายไป 100% หรอ แต่พอฟังหมอพูดอธิบายตรงๆ ก็เออ เข้าใจได้
ดีกว่าหมอไม่บอก ละให้ความหวัง
หมอบอกว่า ถ้าจะเอาติ่งเนื้อนูนออกไปเลยนะ มันต้องทำ stem cell เจาะเลือดเราไปปั่น บลาๆ
ซึ่งแค่ฟังเจาะเลือดก็บายยยย ไม่เอาแล้ว 5555555
.
.
อ่ะ พอเคลียร์ทำความเข้าใจกับหมอแล้ว ก็ขึ้นเขียง! เอ้ยขึ้นเตียง!!
จนท. ที่ทำหน้าที่นี่น่ารักมาก มีหลายคนเลย บริการดีค่ะ เป็นกันเอง
เค้าก็จะมาคลีนหน้าให้และแปะยาชาให้ 45 นาที
ห้องเป็นห้องส่วนตัว นอนหลับสบายฟังเพลง ไม่มีใครรบกวน
อ่ะเราไปดูภาพการเลเซอร์กันเลยดีกว่า
อันนี้ผิวก่อนเลครั้งแรกนะคะ นะคะ
1st Fraxel laser
ถ้าสังเกต จะเห็นรอยบุ๋มด้วย ตะปุ่มตะป่ำตรงจมูกที่แสงกระทบ
ละก็แผลเป็นติ่งเนื้อกลมๆเห็นมั้ยยยย? นั่นแหละน่ารำคาญมาก555
ตรงรูขุมขนก็จะดำๆ เป็นเสี้ยนตอๆ เหตุเกิดจากการซนมือไปกดจมูกนี่แหละเธอเอ้ย
ความรู้สึกตอนเลเซอร์
อ่ะนึกภาพตามนะคะ ตอนเลอ่ะ จะมีจนท.ถือที่เป่าลมเย็นให้
เพื่อเป่าประกบกับการยิงเลเซอร์ แต่ลมมันเย็นและแรง
พอจนท.ถือให้ มันไม่ถนัดสำหรับเชออ่ะ อินี่เลยถือเอง55555555
คือจนท.ไม่ผิดนะ คือถือเองมันคุมง่ายกว่า
หายใจได้สะดวกกว่า ไม่งั้นลมมันเป่าเข้าจมูกตลอดเว หายใจไม่ออก555555
แรกๆ ไม่เจ็บ แต่ไปยิงมาตรงปลายจมูกนี่ อื้อหือ... น้ำตาไหล
เพราะมันเป็นจุดที่ sensitive มากอ่ะ
แต่ก็เจ็บไม่นาน เลจบก็หายเจ็บละ
รวมๆ เป็นความเจ็บที่ทนได้ ห่างไกลหัวใจ *เย้ยยยย~~*
พอดีไม่ได้ถ่ายภาพหลังเลครั้งแรกไว้นะคะ
หลังเลเสร็จ จมูกก็จะแดงนิดๆ
หมอก็บอกว่า พรุ่งนี้มันจะเป็นสะเก็ดนะ ทายาตลอดนะ
หลังจากนั้นก็ลงไปจ่ายยาเพิ่ม มีอยู่สองตัวยาที่หมอสั่งมา
รวมๆ ประมาณ สองพันกว่าบาท ถ้าจำไม่ผิด
ราคาแรงอยู่ 555
2nd Fraxel laser
หลังจากผ่านไปเดือน พอมาครั้งที่สอง จมูกดูดีขึ้น ตรงเสี้ยนๆ ดำๆ ตรงปลายจมูกหายไปอย่างเห็นได้ชัด
หลังเลเซอร์ทันที
อ่ะเนี่ย มันก็จะแดงๆ สะเก็ดเบอร์นี้
3rd Fraxel laser
ช่วงนี้เป็นสิว ไม่แน่ใจเป็นช่วงนอนน้อยรึเปล่า
อาจจะเกี่ยว 555 แต่ผิวจมูกก็ค่อยๆ ดีขึ้น
4th Fraxel laser
อันนี้ถ้าจำไม่ผิด อาจเป็นช่วงที่ไปใช้มาส์กโคลนอ่ะ เลยดูกว้างขึ้นเลย ฮือ
5th Fraxel laser
ผิวรอบนี้ดูดีขึ้น เนียนขึ้นนาจา
หลังเลเซอร์ทันที
ส่วนอีกครั้งนึงไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ
เรามาดูรอบที่ 7 กัน
คือเชอมีเพิ่มรอบเลอีกรอบนึงค่ะ
เลเซอร์ครบแล้วววววววว!!
อันนี้เป็นภาพหลังจากเลเซอร์จบคอร์สไปประมาณเกือบๆ เดือนค่ะ
คืออย่างที่บอกข้างต้น หมอก็มีแจ้งว่ามันไม่หาย100%
แต่ดีขึ้นแน่ๆ และผิวจะทำการสร้างเซลล์มันเองในอีกหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งสิ่งที่เห็นชัดคือรอยบุ๋มตะปุ่มตะป่ำ เชอว่ามันดีขึ้น
ส่วนรอยแผลเป็น ยุบลงไปนิดส์นึง
โดยรวมคือมันก็ดีขึ้นกว่าตอนแรกนะ คือดีกว่าไม่ทำ
---
ทั้งนี้ทั้งนั้น
มันมีปัจจัยหลายอย่างมากๆ ในการจะทำให้ผิวมันคงสภาพดีไปเรื่อยๆ
ซึ่งเชอขอสรุปดังนี้
การรักษาผิวหน้าหลังเลเซอร์
1. งดการขัดลอกทุกอย่าง
สครับ, AHA อะไรก็ตามที่แรงๆต่อผิว
2. ทายาที่หมอจ่ายให้ตลอด
ทาบ่อยๆ ชม.นึงทาที ว่างก็ทา
3. กันแดด is a must
โบกกันแดดไปเลยค่า จำเป็นมาก
4. แต่งหน้าทับได้!!
บ่ต้องห่วง แต่ต้องคลีนหน้าให้สะอาด เท่านั้นเอง
5. อย่าไปใช้อะไรอุดตันผิว
มีครั้งนึง เชอไปใช้มาส์กโคลนพอกหน้า กลับมาปุ๊ป หมอทักเลย
ไปทำไรมารึเปล่า.. คือรูขุมขนใหญ่ขึ้นเลยอ่ะ ฮืออออ
ซิลิโคนเมคอัพก็ไม่ควร อะไรที่สครับด้วย
6. ห้ามกดดดดดดดสิวเสี้ยนตรงจมูก
ให้ใช้การลอกเอา เดือนละครั้งพอ
---
อันนี้เป็นสิ่งที่หมอบอกมาคร่าวๆ นะคะ
ส่วนประสบการณ์ตรงของตัวเอง
พบว่า
"การพักผ่อนให้เพียงพอ is a key!!!!"
มีช่วงนึงนอนน้อยมาก รูขุมขนชัดกว้างมาก กรี๊ดดดด
และอีก point คือ
"สภาพอากาศก็เป็นตัวแปรสำคัญ"
นี่ ให้ดูกันชัดๆ นะเธอ
นี่คือสภาพหนังหน้าหลังกลับจากเกาหลี
ใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศติดลบถึงประมาณ 5-8 องศา มา 4 วัน
รูขุมขนหด ดีมากกก หน้าเนียนกิ๊งงง เลิฟมากกก
แต่พอกลับมาไทยได้เดือนสองเดือน
เจอทั้งมลภาวะ มลพิษในอากาศ pm2.5 สารพัดพิษ! + นอนน้อย
แกรดูจมูกชั้นนนน สิวเสิว ความหมองคล้ำ รอยด่างดำ มันมาาาา!!
เห็นชัดเลยว่า มันส่งผลจริงๆ
เพราะงั้น ขอสรุปดังนี้
การเลเซอร์มันก็เป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้หนังหน้าเราดีขึ้นได้ส่วนนึง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเองทั้งหมด สภาพอากาศ การกิน
ทุกอย่าง มันส่งผลออกมาด้วย
เพราะฉะนั้น
สำรวจตัวเองและเช็คดูว่าจำเป็นมั้ยกับการเลเซอร์
จะคุ้มมันไม่คุ้ม มันอยู่ที่มุมมองและการใช้ชีวิตจริงๆ
จบล้าวววววว.
ทิ้งท้าย ก็รู้สึกขอบคุณทางคลินิคนะคะ ที่ดูแลกันอย่างดีช่วงที่เชอไปฝากตัว
ทั้งคุณหมอ จนท.ฝ่ายขาย จนท.ที่ดูแล น่ารักทุกคนจริงๆ เป็นกันเองมากๆ
เราค่อนข้างประทับใจกับบริการที่นี่
ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแวะไปรับบริการอีก
สำหรับรีวิวเลเซอร์ที่ BSL CLINIC ฝากไว้เท่านี้นะจ๊ะ
------------------------------------
NON-SPONSORED*
จ่ายเองทุกบาทจ๊ะ 555555555
No comments
Post a Comment