Tuesday, April 11, 2017

Update : สภาพร่างกายหลังเลิกยาลดความอ้วนมา 4 ปี!

ก่อนจะเข้าเรื่อง "หุ่น" ในปัจจุบัน ขอท้าวความอดีตแก่เพื่อนๆ ที่ยังไม่รู้อดีตการกินยาลดความอ้วนของเชอ ขอสรุปสั้นๆ ตรงนี้ว่า กินมา 6 ปี โชกโชนมาก ใครอยากรู้รายละเอียด เข้าเรียงบล็อกที่เชอเคยอัพตรงนี้ได้เลยค่ะ

สืบเนื่องจากการแชร์ประสบการณ์กินยาลดความอ้วนและโยโย่ยาของเชอ




คลิปวีดีโอ



เนื้อหาในคลิปนี้จะเป็นการแชร์ประสบการณ์การกินยาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มรวมถึงอาการตั้งแต่โยโย่ยา จน”หาย”โยโย่

---

มาถึงปัจจุบันกันบ้าง ปี 2017 
ตอนนี้ ขณะที่อัพเป็นเดือนเมษา ต้นเดือน
อันนี้รูปล่าสุด ไปเที่ยวฮ่องกงมาวันที่ 8 


ก็ยังไม่ได้ผอมเพรียวเท่าสมัยกินยา (ก็แน่ล่ะ)
แต่มีแต่คนทักว่า "ผอมลง" ที่สำคัญ​สุขภาพดีขึ้นแบบคนละเรื่องกับสมัยนู้น



น่องยังคงใหญ่ล้น 



แต่โดยรวมก็ผอมลงกว่าตอนโย่ยาแรกๆ อย่างเห็นได้ชัด 

และคือรูปร่างเชอในวันที่ 31 มีนาที่ผ่านมา
.
.
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้.. ใช้เวลากว่า 4 ปีจริงๆ 


ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกกับการโชว์พุง :D
Fat รอบพุงยังหนาอยู่เยอะ แต่ลายอะไรเริ่มมาคะ? เห็นมะ?

นี่ก็ยังงงนะ ลายแม้งมาได้ไงวะ ท้องก็แทบไม่ได้เล่น

พูดจริงๆ ว่าเป็นคนไม่ชอบเล่นท้องเลย 555 

รูปร่างค่อยๆ ผอมลง มีแต่คนทัก

โดยเฉพาะหน้า เชอเป็นคนที่เวลานน.ขึ้น-ลง หน้าจะออกก่อนเลย


และนี่เป็นอีกหนึ่งบทสรุปที่อยากให้ทุกคนรู้ว่า..

"การโยโย่ยาลดความอ้วน ไม่ใช่จุดจบของชีวิต แต่มันเป็นการ PAYBACK ที่ตัวเองเคยทำลายสุขภาพตัวเอง เพื่อเผชิญสิ่งที่ดีกว่า"

"ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ"



ร่างกายกว่าจะดีขึ้นจริงๆ ใช้เวลาตั้ง 4 ปีหลังเลิกยา มันไม่ง่าย กับการเดินทางที่ผ่านมา แต่มันก็คุ้ม.. กับการได้ตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตตัวเองในวันนั้น เพื่อสิ่งที่ดีและยั่งยืน..
.
.


ทีนี้มาตอบคำถาม(นอกเหนือจากด้านบน) ที่คนมักถามเชอ

ณ ตอนนี้ (ปี 2017) ใช้ชีวิตยังไง?

ตอบ:

1. การกิน

กินตามใจตัวเองมากซะส่วนใหญ่ กินขนมทุกอาทิตย์ นี่พูดเลย

นิยามคำว่าคลีนของเชอคือแบบ ขนมปังโฮลวีท ข้าวกล้อง ปรุงรสหวานน้อย กินมันน้อยๆ อะไรแบบนี้ ไม่ถึงกับขั้นว่าซีอิ๊วต้อง low sodium, อกไก่แห้งๆจืดๆ อะไรแบบนี้ 

"ไม่ค่ะ!!" นมก็ไม่ได้กินแบบ low-fat อะไร ถ้าหาซื้อไม่ได้ก็กินแบบธรรมดาเลย 

ชีสทาร์ทก็กิน ขนมปังไม่โฮลวีทก็กินนะ แล้วแต่อารมณ์ 555 คือเอาง่ายๆ
การกินนี่วินัย 40/100 

2. การออกกำลัง
เล่นเวทกับเต้น Zumba/ Body Jam 2-4 วันต่อสัปดาห์
มีเดินเร็วบนลู่บ้าง "เดินเร็วนะคะ" ไม่ใช่วิ่ง 
เวทที่นี้ก็ไม่ได้เอาเป็นเอาตาย ยกหนักเหมือนมะก่อน เดี๋ยวนี้ยกเบามากก 
และเล่น machine ซะส่วนใหญ่ 
ท่าที่เล่น squat, sumo squat, deadlift, dumbbell kickback, pull down, chest press, plank, และฝึก stomach vacuum ทุกครั้งที่มีโอกาส
การฝึก stomach vacuum คือฝึกตอนไหนก็ได้
ฝากคลิปโค้ชฟ้าใสเลยละกัน 

ส่วนเต้น นี่ชอบมาก กลายเป็นว่าการเต้นถือเป็น cardio workout ของอิเชอไปเลย
เต้นชม.นึงก็ Burn ได้สูงสุดถึง 500 แคลเชียว +- แล้วแต่คน
ใครนึกไม่ออกอิเชอเต้นยังไง
เชิญเข้า Instagram และ search hashtag #cherriiecherryzumba ค่ะ
55555555 คือดิชั้นเต้นประมาณนั้นแหละ เวลามีแรงมากๆ 

3. ไม่เครียด
คือไม่เครียดจริงๆ ดูจากการกินชั้นสิ 555 ตอนนี้เรื่องรูปร่างไม่ใช่ priority
แต่เป็นหน้าที่การงาน อะไรหลายๆ อย่างในชีวิตมันทำให้เราต้องลำดับความสำคัญใหม่
แต่สุขภาพเราก็ไม่ได้ทิ้ง ยังคงใส่ใจอยู่ เพียงแต่ไม่เครียดกับการกินเท่ามะก่อนเท่านั้นเอง
กินแบบพอดีๆ ไม่ยัดห่า (แม้บางวันก็มียัดห่าบ้างแหละ)  ถถถ


4. หลุดกินเยอะ แล้วน้ำหนักมีขึ้นมั้ย? อ้วนขึ้นเปล่า?
และเป็นธรรมดา ที่เวลากินของอ้วนๆเยอะ รอบพุงก็เผละหนาขึ้น อีกวันถัดมาก็ต้องคุมหนักขึ้นหน่อย ถ้าไม่อยากให้เผละกว่านี้ และอย่างที่บอก
มันเหมือนกลายเป็น common sense ที่ปลูกฝังเข้าไปในซิลิบัมอิเชอแล้วอ่ะ
จะกินอะไรเหมือนมันรู้เอง
.
.
>>อยากกินปาท่องโก๋? ก็เอาทิชชู่
ซับมันหน่อย กินคู่สองคู่พอ ไม่ใช่ยัด10ตัว
>>อยากกินกาแฟ ก็กินแบบหวานน้อย เพราะตัวเองไม่ชอบรสหวานจัดอยู่แล้ว อันนี้โชคดีไป
>>อยากกินช็อคโกแลต ก็กินแต่พอประมาณ หักออกมากินละเก็บไว้กินวันอื่นต่อ ไม่ใช่ยัดทีเดียวทั้งแท่ง
>> แอลกอฮอล์เดี๋ยวนี้แทบไม่แตะ มีบ้างเวลาเหนื่อยๆ ละกินเบียร์เย็นๆ คือมันสดชื่น ไม่ได้กินเอาเมาเละเทะ

คุมเท่าที่คุมได้ อยู่ในความพอดีสมดุล ออกกำลังไปเรื่อยๆ ออกในรูปแบบที่ตัวเองชอบ จะทำได้นาน (อย่างการเต้นเป็นต้น 555)

สำหรับเชอ วิธีนี้มันสบายๆ ไม่กดดันตัวเอง
เน้นว่า "มีสติ" และ "คิดเองได้" ว่าควรจะ Balance ชีวิตอย่างไร..

หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆ คนต่อไปนะคะ :)

อย่าลืมว่าความผอมไม่ใช่ทุกสิ่ง สุขภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

รัก <3

Share:

No comments

Post a Comment

© cherriiecherry | All rights reserved.
Blog Design Handcrafted by pipdig